สงครามการตลาดในยุคปัจจุบัน มีการแข่งขันที่ดุเดือด บางธุรกิจยอมที่จะลดราคา ตามคู่แข่งขัน ทั้งๆที่ต้นทุนของบริษัทตนเองนั้นสูงกว่าคู่แข่ง การตลาดกับการขายมีส่วนคล้ายคลึงกันอย่างหนึ่งคือ มีการตอบรับและการถูกปฏิเสธ ดังนั้น หากทำการตลาดไปแล้ว ผลสะท้อนกลับมาอาจไม่ดีพอ เราอาจจะต้องทำใจ เพราะสิ่งทุกสิ่งในโลกนี้มักมี 2 ด้าน เสมอ เช่น มีบวกมีลบ , มีสมหวังมีผิดหวัง ฯลฯ นักการตลาดยุคใหม่จึงต้องเข้าใจและยอมรับ
ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าในยุค Thailand 4.0 จะเน้นในเรื่องอะไรบ้าง
กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ (จะเห็นได้ว่าการทำเกษตรกรรมอยู่ในข้อ 1 เลย)
กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์
กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเครื่องกลที่ใช้อิเล็กทรอนิกส์ควบคุม
กลุ่มดิจิตอล เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์และทคโนโลยีสมองกลฝังตัว
กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง
ยุคเกษตร 4.0 อ้างอิงคำพูดของนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวว่าได้วางแผนระยะยาวไว้ 10 ข้อดังนี้
ส่งเสริมเกษตรกรให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
เพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ
คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมรวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย
แก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร
พัฒนาปรับปรุงกฎระเบียบที่มีอยู่ให้ทันสมัย
เน้นทำปศุสัตว์แปลงใหญ่ให้ความสำคัญกับอาหารสุขภาพ
เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
ปรับการผลิตให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เน้นทำวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้น
บูรณาการการทำงานร่วมกันในทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติ
“ จากเกษตรกรธรรมดาเปลี่ยนมาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจด้านเกษตร สร้างแบรนด์ ปลูกเอง ขายเอง ทำตลาดเอง มี Story ที่ใช้ในการเพิ่มมูลค่าสินค้า มีการวางแผนจดบันทึกการเพาะปลูกในครั้งต่อไป ”
เกษตร 4.0 ยุคที่เกษตรกรไทยต้องรู้ !
เมื่อกลางปี 2559 ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ออกนโยบายหนึ่งออกมา ซึ่งผมเห็นว่าเป็นนโยบายที่สนับสนุนวงการเกษตรแบบพลิกแนวคิดไปเลย ที่ผมให้ความสนใจนั้นคือไม่ใช่นโยบายที่พยุงราคาผลผลิตพืชเกษตรอย่างที่แล้ว ๆ มาแต่อย่างใด แต่เป็นนโยบายที่ปรับเปลี่ยนวิธีคิดการทำเกษตรแบบเดิมไปเลย นั่นก็คือ Thailand 4.0
แล้วกว่าจะมาถึงยุค 4.0 เราผ่านยุคอะไรมาบ้าง
ยุค 1.0 เน้นการเกษตรเป็นหลัก ผลิตและขายพืชไร่ พืชสวน ส่วนมากเป็นพืชเชิงเดี่ยว
ยุค 2.0 เน้นอุตสาหกรรมเบา
ยุค 3.0 เน้นอุตสาหกรรมหนักและการส่งออก
ยุค 4.0 เน้นเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม Value-Based Economy
การทำเกษตร 4.0 เป็นการพลิกแนวคิดของเกษตรที่จะต้องมีองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี การแปรรูป และการทำตลาดเองควบคู่กันไปด้วย อีกโครงการหนึ่งที่ผมเห็นว่าดีคือ โครงการ Young smart farmer ที่ได้ทำการคัดเลือกเยาวชนผู้ที่สนใจในการทำเกษตรมาเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการทำเกษตรยุค 4.0 ไปด้วยอีกทางหนึ่ง
Comments